ทริปไหว้พระ 9 วัด - ในตัวเกาะเมือง
“ เกาะเมือง คือส่วนไหน ? “
เกาะเมือง ใช้เรียกพื้นที่ส่วนที่ถูกแม่น้ำล้อมไว้
“ ทริปนี้เหมาะกับ ? “
- ปั่นจักรยานเที่ยวเกาะเมือง
- อยากนั่งตุ๊กตุ๊กทัวร์
- ตุ๊กตุ๊กมีคอร์สให้เลือก เหมารถชั่วโมงละ 200 บาท (สามารถเดินไปหาคนชับรถตุ๊กแล้วสอบถามได้เลย)
หรือ เราขอแนะนำ
- วัดตึก อยุธยา
- วัดโลกยสุธา
- วิหารพระมงคลบพิตร
- วัดพระศรีสรรเพชญ์
- วัดพระราม
- วัดธรรมิกราช
- วัดราชประดิษฐาน
- แวะทานอาหาร ก๋วยเตี๋ยวเรือลุงเล็ก
- วัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร
หรือถ้าคุณอยากได้คาเฟ่สวย ๆ ไว้พักผ่อนหย่อนใจ
เราขอแนะนำ : บุษบา คาเฟ่ ( BUSABA Café & Meal )/ ปรางวิว คาเฟ่ ( PRANG VIEW )/ วอล์คอิน คาเฟ่ (Walk In Café)
ถ้าจะให้พูดถึงอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนอยุธยาเองและคนต่างถิ่นเองก็สนใจ ก็คงจะต้องมี 'ไหว้พระ 9 วัด' ขึ้นมาในหัวแน่ ๆ โดยวันนี้เราจะมาแนะนำทริป สถานที่ที่จะให้คุณได้ลองเดินทาง และไหว้พระขอพรสมดั่งใจหวัง โดยแต่ละสถานที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันมาก ประหยัดน้ำมันได้ไม่มากก็น้อยเลยล่ะ
เริ่มกันที่สถานที่แรกกันก่อนเลย "วัดตึก" วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีเรื่องเล่าขานต่อๆกันมาว่า เป็นพระอารามของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ (พระเจ้าเสือ) มีสิ่งที่น่าสนใจคือโบสถ์มหาอุตม์ เรียกตามลักษณะที่พิเศษกว่าโบสถ์ลักษณะอื่น ที่ออกแบบให้มีประตูทางเข้า-ออกทาเดียวและไม่มีหน้าต่าง จนทำให้หลายคนเชื่อกันว่าโบสถ์มหาอุตม์นี้สร้างขึ้นมาเพื่อทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ และเหตุผลที่มีทางเข้า-ออกทางเดียวและไม่มีหน้าต่างก็เพื่อให้อาคมของขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น
"วัดโลกยสุธาราม" หรือ "วัดโลกยสุธา" วัดนี้มีพระพุทธไสยาสน์ ปางไสยาสน์ ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยา ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ก่ออิฐถือปูน มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร เป็นจุดโดดเด่นของสถานที่แห่งนี้ นอกจากจะเข้าไปกราบไหว้ขอพรได้แล้วนั้น ยังสามารถชมโบราณสถานเก่าแก่ภายในวัดได้อีกด้วย
"วิหารพระมงคลบพิตร" มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ โดยพระมงคลบพิตรเป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น
สถานที่ถัดไป "วัดพระศรีสรรเพชญ์" ซึ่งวัดนี้เป็นวัดที่สำคัญที่สุดในสมัยอยุธยา มีใจกลางวัดเป็นที่ตั้งของเจดีย์ใหญ่ศิลปะลังกา 3 องค์ มาถึงแล้วต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกไว้เลย
△ ขอบคุณรูปภาพจาก juzzoo
(ใช้เมาส์ชี้ไปที่ลูกศร)
ต่อไป "วัดพระราม" ซึ่งมีพระปรางค์ขนาดใหญ่เห็นเด่นชัด เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น บริเวณหน้าวัดเป็นบึงพระราม ถึงแม้ตอนนี้จะเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังมีพระปรางค์อยู่ จึงเป็นอีกสถานที่สำคัญอีกสถานที่หนึ่งของอยุธยา
"วัดธรรมิกราช" เป็นอดีตพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา ติดกับพระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดนี้มีจุดเด่นคือ เป็นวัดที่พบเศียรพระธรรมิกราชซึ่งนับเป็นพระเศียรสำริดที่มีขนาดใหญ่สุดและมีความสำคัญที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย โดยปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา อีกทั้งยังมีเจดีย์ทรงกลมที่มีปูนปั้นรูปสิงห์ล้อม โดยแต่ก่อนมี 52 ตัว ตอนนี้เหลือเพียง 20 ตัว
(ใช้เมาส์ชี้ไปที่ลูกศร)
"วัดราชประดิษฐาน" วัดแห่งนี้ไม่มีประวัติที่ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง แต่ถึงกระนั้นคนที่มาบวชเล่าเรียนและจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ล้วนแต่เป็นเชื้อพระวงศ์ สมัยก่อนเคยมีคลองสำคัญทางการค้าคั่นระหว่างวัดราชประดิษฐานกับวัดท่าทราย แต่ปัจจุบันได้มีการถมคลองไปแล้ว ทั้งคลองและวัดท่าทรายได้นับรวมเป็นวัดราชประดิษฐานและบริเวณด้านหน้าพระอุโบสถมีป้อมโบราณ เรียกว่า 'ป้อมประตูข้าวเปลือก' ที่เหลือเพียง 1 ใน 2 ป้อมจากทั้งหมด 29
"ก๋วยเตี๋ยวเรือลุงเล็ก" ร้านนี้อยู่ตรงสี่แยกไฟแดงใกล้กับโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา ก๋วยเตี๋ยวเรือร้านนี้มีลูกค้าเข้ามาทานไม่ขาดสาย ด้วยราคาที่ถูก และรสชาติที่อร่อย มีให้เลือกทานหมูหรือเนื้อ และนอกจากจะขายก๋วยเตี๋ยวเรือแล้วนั้นยังมีหมูสะเต๊ะ ลูกชิ้น น้ำปั่น และร้านที่เปิดอยู่บริเวณภายในร้าน หากอยากทานให้สั่งพร้อมกับตอนสั่งก๋วยเตี๋ยวได้เลยค่ะ
"วัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร" เดิมชื่อ "วัดเสื่อ" สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ภายในวัดมีพระวิหารพระอินทร์แปลงติดกับวิหารพระพุทธไสยาสน์ โดยวัดนี้มีพระอินทร์แปลง เป็นพระพุทธรูปสำคัญอีกองค์หนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้เชิญมาจากเมืองเวียงจันทน์เมื่อปี พ.ศ. 2401
และปิดท้ายวันด้วยคาเฟ่ หรือร้านอาหารสวย ๆ ในตัวเกาะเมืองอยุธยา เช่น บุษบา คาเฟ่ (Busaba Cafe & Meal) หรือ ปรางวิว คาเฟ่ (PRANG VIEW) หรือ วอล์คอิน คาเฟ่ (Walk In Café)
หรือ "บุษบา คาเฟ่ (Busaba Cafe & Meal)" โดยสาขานี้เป็นสาขาที่เน้นการตกแต่งด้วยสีขาวสบายตา นอกจากบรรยากาศที่ดีของร้าน อาหารและเครื่องดื่มก็ยังดีไม่แพ้กัน หลังจากชมโบราณสถานมาร้อน ๆ ก็มานั่งพักผ่อนหย่อนใจที่บุษบา คาเฟ่ ซึ่งบุษบา คาเฟ่ ก็ยังมีอีกหนึ่งสาขาตั้งอยู่ใกล้วัดมหาธาตุ ใช้ชื่อว่า Busaba Cafe & Bake Lab
△ บุษบา คาเฟ่ (Busaba Cafe & Meal)
△ บุษบา คาเฟ่ (Busaba Cafe & Bake Lab)
หรือ "ปรางวิว คาเฟ่" ที่นี่จะมีขนาดกว้่างและมีจุดถ่ายรูปภายในตัวร้าน แถมเครื่องดื่มและรสชาติของขนมก็อร่อยคุ้มราคา หลังจากทัวร์วัดไปก็มาพักผ่อนหย่อนใจที่ปรางวิวได้เลย
△ ด้านหน้าร้านของปรางวิว
△ วิวจากด้านในของปรางวิว
หรือ "วอล์คอิน คาเฟ่ (Walk In Café)" บรรยากาศของร้านและความร่มรื่นของต้นไม้ที่ตกแต่งนอกร้านทำให้ร้านดูสงบ และยังได้รับการปลอบประโลมจากอาหารที่รสชาติถูกปาก ปิดท้ายด้วยขนมของหวาน อย่างเช่น บิงซู ชีสเค้ก แพนเค้ก เป็นต้น หากคุณได้ลองเข้ามาร้านนี้ จะต้องเป็นที่จดจำของคุณอย่างแน่นอน